การเลือกซื้อยาง
ท่านควรตรวจดูดอกยางรถของท่านในตำแหน่งต่างๆ และมั่นใจว่าร่องยางทั้งด้านใน ด้านนอกและตรงกลางของยางแต่ละเส้นได้รับการตรวจสอบด้วยเนื่องจากยางแต่ละด้านอาจสึกไม่เท่ากันเพราะการตั้งศูนย์ล้อไ ม่ถูกต้องและ/หรือความดันลมยางต่ำ สำหรับการขอความช่วยเหลือ ท่านสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายยางกู๊ดเยียร์เพื่อการตรวจสอบโดยผู้ชำนาญการของเราโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
- จงเลือกยางที่ดียอดเยี่ยมจากการทดสอบการห้ามล้อและการบังคับรถ
- ให้ประเด็นการสึกหรอของดอกยาง การขับขี่ที่สะดวกสบาย การต้านการพลิกคว่ำ
เป็นข้อพิจารณาการเลือกยางของท่านให้แคบเข้า - การเลือกยางรถยนต์ของท่านจะขึ้นอยู่กับประเด็นของพื้นที่ที่ท่านพักอาศัยอยู่ อากาศและภูมิประเทศ
สมรรถนะที่ท่านคาดหวังและสิ่งที่ต้องการให้รถยนต์ของท่านเป็น
การขับขี่ระยะทางไกล: รายการตรวจสอบก่อนการเดินทาง
- ความดันลมยางรถยนต์การขับขี่ที่ราบเรียบจะเริ่มจากยางรถยนต์ของท่าน ดังนั้น
จงตรวจสอบความดันลมยางก่อนออกเดินทางอย่างน้อยที่สุดเดือนละครั้ง หมายเหตุ:
ควรหมั่นตรวจความดันลมยางเป็นประจำ โดยเฉพาะเมื่อยางอยู่ในอุณหภูมิปกติ
ตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ที่พิมพ์ไว้บนแผ่นประตูรถหรือคู่มือการใช้รถของท่าน
ห้ามสูบลมเกินพิกัดความดันลมยางที่ประทับไว้ให้ทราบบนแก้มยาง - ไส้กรองอากาศการเปลี่ยนไส้กรองอากาศที่อุดตันจะช่วยให้ท่านประหยัดน้ำมันในการเดินทาง
- หัวเทียน
หัวเทียนที่สึกหรอหรือสกปรกอาจเป็นสาเหตุทำให้การสตาร์ทเครื่องรถยนต์ไม่สมบูรณ์ซึ่งอาจทำให้กินน้ำมัน –การเปลี่ยนหัวเทียนเหล่านี้ตามคำแนะนำในคู่มือการใช้รถของท่านจะทำให้สมรรถนะรถของท่านดีขึ้นและการขับขี่ที่สะ
ดวกสบายกว่าสำหรับท่าน - ฝาปิดถังน้ำมันถ้าฝาปิดถังน้ำมันรถของท่านเสียหาย หลวม หรือสูญหาย
น้ำมันระเหยออกไปทำให้ท่านสูญเสียน้ำมัน
1 คำขวัญของสมาคมผู้ผลิตยางรถยนต์ “Be Tyre Smart”
เทคนิคการยืดอายุการใช้งานของยาง
- ตรวจสอบความดันลมยางของท่านทุกๆ 3,000 ไมล์/4,500 กม.
เพื่อให้การขับขี่รถของท่านเป็นไปอย่างราบเรียบและสม่ำเสมอทำให้การใช้น้ำมันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
หมายเหตุ:
เมื่อยางเย็นลงท่านควรสูบลมตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ของท่านที่พิมพ์บนแผ่นประตูรถหรือคำแนะนำในคู่มือการใช้รถของท่าน ห้ามสูบลมเกินพิกัดความดันลมยางที่จำกัดสูงสุดซึ่งประทับบนแก้มยาง 1 - สลับยางทุกครั้งที่ 6,000-8,000 ไมล์/10,000-13,000 กม. เพื่อให้ดอกยางสึกเท่ากัน
- ตรวจสอบการตั้งศูนย์ล้อตามที่กำหนดในคู่มือการใช้รถของท่านหรือเมื่อท่านมีความรู้สึกว่าล้อรถมีการ “ดึง”
- ตรวจยางรถยนต์ของท่านด้วยสายตาเพื่อหาความผิดปกติในการสึกของดอกยางเนื่องจากการสึกของดอกยางอาจบ่งบอกปัญหาเกี่ยวกับการตั้งศูนย์ล้อหรือการสูบลมยางได้
- ถ้าท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ขอแนะนำให้ท่านไปพบกับเจ้าหน้าที่ของเรา ณ จุดบริการลูกค้า ได้
1. คำขวัญของสมาคมผู้ผลิตยางรถยนต์ “Be Tyre Smart”
- ความดันลมยางที่ไม่เหมาะสมสามารถทำให้เกิดปัญหามากมาย
ตั้งแต่ทำให้ดอกยางสึกไม่เท่ากันและเร็วมากจนถึงทำให้โครงสร้างของยางเสียหายและรถกินน้ำมัน
การสูบลมยางรถยนต์ของท่านที่ความดันลมยางซึ่งถูกต้องเหมาะสมจะช่วยให้รถของท่านประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นทั้งประหยัดเงินของท่านที่ปั๊มน้ำมันด้วย
จงตรวจสอบความดันลมยางของท่านอย่างน้อยเดือนละครั้งหรือก่อนออกเดินทางระยะไกล - บริษัทกู๊ดเยียร์ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบความดันลมยางรถยนต์ของท่านเป็นประจำทุกเดือนหรือก่อนออกเดินทางระยะไกล ควรสูบลมยางตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ที่พิมพ์บนแผ่นประตูหรือที่ระบุในคู่มือการใช้รถยนต์ของท่าน
- การบำรุงรักษารถยนต์และยางโดยถูกต้องเหมาะสมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเนื่องจากจะทำให้สมรรถนะการขับขี่สูงสุด ประหยัดเงินและน้ำมันได้อย่างมากมาย
การบำรุงรักษา
ปริมาณความดันลมยางที่ปรากฏบนแก้มยางด้านข้างเป็นพิกัดสูงสุดที่อนุญาตให้สูบได้ซึ่งก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นปริมาณความดั
นลมยางที่ถูกต้องเหมาะสมสำหรับรถของท่าน
จงใช้ความดันลมยางที่แนะนำโดยผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งพิมพ์บนแผ่นประตูรถของท่านหรือในคู่มือการใช้รถยนต์ของท่าน
ควรตรวจสอบลมยางรถยนต์ของท่านเมื่อยางอยู่ในอุณหภูมิปกติ (เช่น เมื่อท่านขับรถของท่านเป็นระยะทางไม่ถึงหนึ่งไมล์หรือหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้นหลังการขับขี่) จงใช้เกจวัดที่ได้มาตราฐานในการวัดลมยาง
พึงระลึกไว้เสมอว่าเป็นธรรมชาติของยางเรเดียลที่จะนูนขึ้นเล็กน้อยในแก้มยางเมื่อความดันลมยางถูกต้องเหมาะสม จงตรวจสอบและปรับลมยางทุกๆสองสามสัปดาห์ก่อนเดินทางไกลหรือเมื่อมีการบรรทุกหนัก
และต้องไม่ลืมตรวจดูยางอะไหล่ด้วย และศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์สามารถให้คำปรึกษาได้หากท่านมีคำถามเกี่ยวกับยาง
ถือว่าถูกต้องเมื่อระบบกันสะเทือนและส่วนประกอบอุปกรณ์การเลี้ยวทั้งหมดจะส่งเสียงและเมื่อการประกอบล้อและยางตรงและเป็นจริง การตั้งศูนย์ล้อเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้การสึกของดอกยางเท่ากันและการขับขี่สะดวกสบาย
การสึกของยางล้อหน้าและล้อหลังที่ไม่เท่ากัน หรือมีการเปลี่ยนการบังคับรถหรือการขับขี่รถของท่าน (เช่น เกิดการดึงไปอีกด้านหนึ่ง) เป็นสัญญาณของการบอกว่าการตั้งศูนย์ล้อนั้นผิด
รถยนต์ในปัจจุบันจำนวนมากติดตั้งอุปกรณ์กันสะเทือนด้านหลังที่สามารถปรับการตั้งศูนย์ล้อได้
รถของท่านอาจจำเป็นต้องตั้งศูนย์ล้อด้านหน้าหรือทั้งหมดสี่ล้อขึ้นอยู่กับอาการของรถที่ท่านพบ
ค่าใช้จ่ายปานกลางสำหรับการตั้งศูนย์ล้อรถยนต์ของท่านคุ้มค่าในการช่วยประหยัดเงิน
เพิ่มสมรรถนะรถและความสะดวกสบายในการขับขี่ของท่าน
ผู้ค้าปลีกยางกู๊ดเยียร์มีผู้ชำนาญการในการให้บริการการตั้งศูนย์ล้อและระบบกันสะเทือน
ยางที่ไม่สมดุลจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในตัวรถยนต์ของท่านและทำให้ท่านเหน็ดเหนื่อยในการขับขี่
ทำให้ยางสึกก่อนเวลาและการสึกหรอของระบบกันสะเทือนในรถของท่านโดยไม่จำเป็น
ยางต้องได้รับการถ่วงดุลในทันทีที่พบว่ามีการสั่นสะเทือนของรถ “หรือพวงมาลัยสั่น”
การสั่นสะเทือนอาจเกิดจากการตั้งศูนย์ล้อผิดหรือปัญหาของเครื่องยนต์ก็เป็นได้
ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ท่านนำรถของท่านไปตรวจสอบที่ผู้ค้าปลีกย่อยยางกู๊ดเยียร์เพื่อให้ผู้ชำนาญการดูอาการและซ่อมแซมเพิ่มเติม
ท่านต้องถอดยางออกจากล้อเพื่อตรวจสอบภายในยางโดยละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่ายางไม่เสียหาย
รถแม้จะวิ่งในระยะสั้นขณะที่ยางแบบมักจะทำให้ยางเสียหายเกินกว่าที่จะซ่อมได้ รอยเจาะ รูตะปู หรือรอยตัด
ที่ใหญ่ถึง ¼ นิ้ว (จำกัดบริเวณดอกยาง)
อาจให้บุคคลากรที่ผ่านการอบรมซ่อมเป็นที่พอใจได้โดยใช้วิธีการทางอุตสาหกรรมที่ได้รับการอนุมัติ รอยเจาะที่ใหญ่กว่า ¼ นิ้ว หรือเกิดที่แก้มยางจะซ่อมไม่ได้
นอกจากนี้ ห้ามซ่อมยางที่สึกที่ความลึกดอกยางมากกว่า 1.66 มม. ดีที่สุด คือท่านต้องมียางอะไหล่สำรองไว้
จงตรวจความดันลมยางเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าถูกต้องและอยู่ในสภาพที่ดี
และต้องตรวจสอบแก้มยางอะไหล่ด้วยว่าความดันลมยางถูกต้องหรือไม่ตลอดทั้งขีดจำกัดระยะทางและเข็มไมล์
ยางรถยนต์สำหรับทุกฤดูกาลควรสลับตามรูปแบบ “Modified X” ส่วนยางที่นำไปใช้ที่¼ นิ้ว ให้ไขว้ในทางตรงกันข้ามของรถ
ยางที่เหลือสองเส้นให้ย้ายจากเพลาขับเคลื่อนไปยังเพลาที่หมุนอิสระด้านเดียวกันของรถ
วิธีนี้จะทำให้ดอกยางสึกเท่ากันและเป็นไปตามปกติทั้งสี่ล้อ ข้อยกเว้น ได้แก่เมื่อมีการใช้ยางที่ดอกยางออกแบบ “ระบุทิศทาง”
ซึ่งยางเหล่าควรอยู่ด้านเดียวกันของรถและสลับตรงข้างหน้าและข้างหลัง ถ้าหากรถของท่านเป็นแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
เราขอแนะนำให้ท่านไขว้ยางทั้งคู่กับตำแหน่งเพลาใหม่
การสลับยางควรทำทุกๆ 10,000 กม. สำหรับรถยนต์ธรรมดาและทุกๆ 6,000 กม.สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ
จงตรวจสอบจากคู่มือการใช้รถยนต์ของท่านสำหรับการสลับยางที่แนะนำโดยผู้ผลิต การสลับยางครั้งแรกสำคัญที่สุด
เมื่อสลับยาง ต้องปรับความดันลมยางด้วยตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ด้วย
และพฤติกรรมการขับขี่แตกต่างกันไป
เป็นการยากที่กู๊ดเยียร์จะให้ข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับการคาดการณ์ระยะทางการใช้ยางที่จัดให้ที่เป็นอุปกรณ์ดั้งเดิม
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการสึกของยาง ท่านสามารถปรึกษาศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์
ใกล้บ้านท่านเพื่อให้ตรวจสอบเพื่อประเมินต่อไป
เมื่อดอกยางสึกถึงระดับที่ท่านสามารถมองเห็นแท่งชี้วัดความสึกแล้ว นั่นหมายถึงเวลาแล้วที่ท่านต้องเปลี่ยนยางใหม่
- อย่าขับรถด้วยความเร็ว เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงยางจะร้อนมาก
ความร้อนนี้จะเพิ่มอัตราการสึกหรอและลดความคงทนของยาง - จงหลีกเลี่ยงการเลี้ยวอย่างรวดเร็วบริเวณทางโค้งและรอบๆมุม หรือออกตัวเร็วหรือหยุดรถทันทีทันใด
- จงอย่าขับรถบนขอบทางที่ลาดแล้วหรือขอบ หรือหลุมหรือแอ่งบนถนน หรือสิ่งกวาดขวางอื่นๆ
ยางที่เปลี่ยนควรมีขนาดเดียวกันกับยางที่กำหนดเพื่อรถของท่าน (หรือตัวเลือกที่อนุมัติ)
ตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ของท่านหรือตัวแทนจำหน่ายยางกู๊ดเยียร์ของท่าน
เมื่อท่านเลือกยางคู่หนึ่งเพื่อเปลี่ยนที่เป็นขนาดและการสร้างแบบเดียวกันกับยางเดิมของรถ
เราขอแนะนำให้ท่านใส่ยางทั้งสองเส้นบนเพลาหลัง ถ้าเป็นยางใหม่เดี่ยว
ควรใส่คู่กับยางบนเพลาหลังที่มีความลึกดอกยางลึกที่สุด
จงขับขี่ด้วยความระมัดระวังขณะที่ท่านขับขี่เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับสมรรถนะของยางและการบังคับ
จงใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเบรก เร่งความเร็ว เข้าโค้งหรือขับขี่ขณะฝนกำลังตก
ช่วงนี้จะเป็นเวลาที่ท่านจะสังเกตเห็นความแตกต่างของยาง
เพื่อสมรรถนะที่ดีทีสุดตลอดเวลา เราขอแนะนำว่าขนาดของยางควรเป็นขนาดเดียวกัน การสร้างแบบเดียวกัน
(ทั้งยางเรเดียลและไม่ใช่) และอัตราความเร็วเดียวกัน ถ้าหากยางที่ใส่ในรถคันเดียวกันเป็นยางที่มีอัตราความเร็วต่างกัน ขนาด
ชนิดและอัตราความเร็วอย่างเดียวกันจำเป็นต้องใส่บนเพลาเดียวกัน
ยางที่มีอัตราความเร็วต่ำควรเป็นปัจจัยที่จะต้องพิจารณาความเร็วของรถยนต์ที่เกี่ยวกับยางที่สามารถอนุญาตได้
ท่านต้องไม่ใส่ยางเรเดียลผสมกับยาง Bias-ply บนเพลาเดียวกัน
ระบบพวงมาลัยและระบบกันสะเทือนควรได้รับการตรวจสอบเพื่อพิจารณาหาสาเหตุและแก้ไขการสั่นสะเทือน ถ้าไม่มีการแก้ไข
การสั่นสะเทือนอาจเป็นสาเหตุให้การสึกของยางและระบบการสั่นสะเทือนเพิ่มมากขึ้นและเป็นอันตรายต่อท่านด้วย
เพื่อขอให้ทางตัวแทนจำหน่ายส่งเข้ามาตรวจสอบ
สาเหตุบางอย่างที่ทำให้ยางรั่วทันทีหรือเป็นไปอย่างช้าๆ ได้แก่
- อันตรายบนท้องถนน (ยางเกิดรูเจาะ รอยตัด ความเสียหายจากการกระแทกยางใน วัสดุที่เป็นชั้นหรือยางของแก้มยาง)
- วาล์วเติมลมหรือการรั่วของแกนวาล์ว (ก้านยางที่เสียหายหรืออายุการใช้งานนานหรือแกนลิ้นที่หลวมหรือเสียหาย)
- การรั่วจากบริเวณที่ใส่ลูกปัด (ล้อพอกเป็นสนิมเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้การปิดช่องระหว่างครีบล้อรถและลูกปัดล้อรถไม่สนิท
บริเวณใส่ลูกปัดเสียหายจากการใส่และถอดยางโดยบังเอิญ
มีวัสดุแปลกปลอมระหว่างบริเวณครีบขอบล้อและลูกบัดล้อและบริเวณที่ใส่ลูกปัด การคดงอของครีบขอบล้อ)
- 1. ขนาดของยางเป็น มม.
- 2. อัตราความสูงต่อความกว้างเป็นร้อยละ (%)
- 3. โครงสร้างยาง (R = ยางเรเดียล)
- 4. เส้นผ่านศูนย์กลางขอบล้อเป็นนิ้ว
- 5. นน. บรรทุกสูงสุด (ดรรชนีการบรรทุก)
- 6. อัตราความเร็ว
- 7. ยางไร้ยางใน
- 8. ตำแหน่งของตัวชี้วัดความสึกของดอกยาง
- 9. เครื่องหมายและหมายเลขที่อนุมัติโดย ECE
- 10. ขีดความสามารถการขับขี่ในฤดูหนาวภายใต้สภาพถนนที่มีโคลนและหิมะ (M & S)
- 11. วันผลิต (สัปดาห์/ปี)
- 12. สัญลักษณ์กรมการขนส่ง ที่ต้องปฏิบัติตาม
- 13. รหัสผู้ผลิตของกรมการขนส่ง
- 14. ประเทศผู้ผลิต
- 15. ชื่อทางการค้า
- 16. รายละเอียดการสร้างยาง (กรมการขนส่ง)
- 17. เครื่องหมายบรรทุกและความดันลมยาง
- 18. ชนิดของยาง (เรเดียล)
- 19. เครื่องหมายซึ่งกฎระเบียบที่เป็นข้อมูลผู้บริโภคของสหรัฐฯต้องการ (ชั้นของคุณภาพ)